วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รวมวิธีประหยัดน้ำ-ไฟรับหน้าร้อน แลกกับ"ใบแจ้งหนี้"ที่เย็นขึ้น

หน้า ร้อนนี้ บิลค่าไฟ - ค่าน้ำของหลายครอบครัวคงจะพุ่งทะยานหากไม่มีการ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า - อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงไปของ โลกกลม ๆ ที่เราอาศัยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่โลกของเรากำลังขาด แคลนวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตเป็นพลังงานให้เราได้ใช้กันอย่างสะดวก สบายเหมือนเช่นในอดีต      
       แน่นอนว่าเทคนิคบางข้ออาจดูคุ้นตา แต่สาเหตุที่เรายังนำมารวบรวมไว้ก็เพราะว่า การรณรงค์ที่ผ่านมา ไม่ค่อยเกิดผลเท่าไรนักในแง่ของการปฏิบัติ ส่งผลให้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และทรัพยากรในปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้นนั่นเอง
     
       ดังนั้นแม้ว่าบางข้ออาจเป็นเรื่อง ที่ฟังมาแล้วหลายครั้ง แต่หากลองถามตัวเองว่าได้เคยปฏิบัติตามไหม และทำได้บ่อยหรือเปล่าก็อาจเป็นอีกหนึ่งการทบทวนที่ดีค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เทคนิคที่นำมาบอกกล่าวจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามกันได้เลยค่ะ
     
       1. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการซักผ้าให้ห อมสะอาด หากเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วยังไม่เยอะพอ ขอให้รอจนผ้าเยอะก่อนจึงค่อยซัก จะช่วยประหยัดน้ำได้ หรือหากจำเป็นต้องซักผ้าบ่อย ๆ โดยที่ผ้าไม่เต็มเครื่องนั้น อาจเปลี่ยนมาเป็นการซักด้วยมือ หรือปรับฟังก์ชันในการทำงานของเครื่อง ซักผ้าให้เหมาะสมแทนเพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำ
     
       2. หากที่บ้านมีเครื่องล้างจาน (รวมถึงเครื่องซักผ้าบางรุ่น) ที่สามารถตั้งอุณหภูมิของน้ำได้ ก็ไม่ควรตั้งไว้สูงมาก เพราะจะสิ้นเปลืองพลังงานในการทำให้น้ำร้อน
     
       3. แต่สำหรับการล้างจานโดยทั่วไปแล้ว แค่แช่ภาชนะที่ต้องการล้างในน้ำสัก 1 กะละมัง เป็นเวลานาน ๆ ก่อนจะล้างตามปกติด้วยน้ำยาล้างจานและฟองน้ำก็เพียงพอ เพราะน้ำจะช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกได้ง่ายกว่า
     
       4. ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแดดแรง มาก แต่เครื่องอบผ้าก็ยังขายได้ และมีหลายครอบครัวที่ซื้อเครื่องอบผ้า มาใช้งานด้วยเหตุผลต่าง ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย หรือทำเลของบ้านไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม หรือบ้านจัดสรร อย่างไรก็ดี ในหน้าร้อนนี้ ใช้แดดให้เป็นประโยชน์บ้างก็คง ประหยัดไฟช่วยชาติได้อีกมากทีเดียว
     
       5. ควรถอดปลั๊กโทรทัศน์ วิดีโอ เครื่องเสียง เมื่อไม่ใช้งาน แทนการเสียบปลั๊กเอาไว้ให้มันอยู่ในโหมด แสตนด์บาย เพราะจะช่วยประหยัดพลังงานได้ถึ 10% - 60% (อย่างไรก็ดี ข้อนี้แม้จะมีการรณรงค์กันค่อนข้างมาก แต่ในหลายครอบครัวก็ยังทำได้ยากอยู่ ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุ เช่น การเสียบ - ถอดปลั๊กทำได้ไม่สะดวก อาจมองหาปลั๊กที่มีสวิตช์เปิดปิดมา ใช้งานแทน)
     
       6. หมั่นละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ จะช่วยให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
     
       7. ยามค่ำคืน หากสามารถเปิดหน้าต่างให้ลมจากภายนอกพัด เข้ามาได้ก็จะเป็นการดี (ถ้าบ้านไม่มียุง หรือขโมยมารบกวน) เพราะนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศการนอนที่แตกต่างจาก การเปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว ยังช่วยให้อากาศในห้องมีการหมุนเวียน อีกด้วย แต่ถ้าร้อนจนเกินไป การมองหาพัดลมเป็นตัวช่วยพิเศษก็ช่วย ประหยัดค่าไฟให้ได้มากเช่นกัน
     
       8. หากมีสวนและต้องเปิดไฟในสวน ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ให้แสงสว่างในสวนชนิดที่ประหยัดไฟ หรือใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกซื้อหาหลายแบบหลาย ชนิด นอกจากจะประหยัดค่าไฟแล้ว ยังช่วยลดค่าติดตั้ง เดินสายไฟ และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานด้วย
     
       9. การใช้งานหลอดไฟในบ้าน ไม่สำคัญว่าคุณใช้หลอดผอม หรือหลอดตะเกียบ แต่ทันทีที่ไม่ใช้งานห้องนั้น ๆ แล้วก็ไม่ควรเปิดไฟทิ้งไว้
     
       10. การปิดก๊อกน้ำระหว่างแปรงฟันช่วยให้ครอบครัวประหยัดน้ำได้ประมาณ 5 ลิตรต่อการแปรง 1 ครั้ง
     
       11. สำหรับการรดน้ำต้นไม้ในสวน ลองเปลี่ยนจากการใช้สายยาง หรือหัวฉีดอัตโนมัติมาเป็นการใช้ฝักบัวรด น้ำ หรือใช้ขันตักน้ำราดต้นไม้จะช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่า แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย
     
       12. เลือกทำครัวด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะ สม หากอาหารที่ต้องการปรุง หรืออุ่นนั้นมีไม่เยอะมาก ก็ควรเลือกใช้ภาชนะขนาดพอดีกับปริมาณของอาหาร การใช้ภาชนะที่ใหญ่เกินไป จะทำให้เปลืองน้ำเวลาทำความสะอาด
     
       13. ถ้าต้องการใช้น้ำร้อนในการทำ อาหาร การต้มน้ำให้ร้อนก่อนด้วยกาต้มน้ำไฟฟ้า จะช่วยประหยัดพลังงานและเวลาได้มากกว่าการต้มน้ำในหม้อหรือภาชนะ ประกอบอาหารโดยใช้แก๊ส
     
       14. หาก ต้องการชงชา หรือกาแฟ และต้องใช้น้ำร้อนจากกาต้มน้ำไฟฟ้า ควรใส่น้ำในปริมาณที่ต้องการ ไม่ควรมากจนเต็มกา เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และเวลาในการทำให้น้ำร้อนไปโดยเปล่าประโยชน์
     
       15. การตั้งตู้เย็นในบ้าน ไม่ควรวางในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง หรือตั้งใกล้กับเตาอบ เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก นอกจากนั้น ควรวางห่างจากผนัง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่สำหรับระบายความร้อนที่ตู้เย็นสร้างขึ้น ให้ไหลผ่านออกไปได้ง่าย
     
       16. ไม่ควรเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นาน ๆ เพราะจะทำให้ความเย็นในตู้ไหลออก ส่งผลต่อการทำงานของระบบทำ ความเย็นที่ต้องทำงานหนักขึ้น กรณีของการปิดตู้เย็นไม่สนิทก็เป็น อีกเรื่องที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน
     
       17. ไม่ควรนำอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ หรืออาหารที่มีอุณหภูมิสูง ๆ เข้าแช่ในตู้เย็น เพราะความร้อนจากอาหารจะส่งผลต่อการทำงานของตู้เย็นให้ทำงานหนักขึ้น รอให้อาหารนั้น ๆ เย็นเสียก่อนค่อยนำเข้าเก็บในตู้เย็นก็ได้
     
       18. มีบางครอบครัวที่เปิดคอมพิวเตอร์ ทิ้งไว้ทั้งคืนเพราะต้องการดาวน์โหลดไฟล์ แต่น้อยคนที่จะยอมปิดหน้าจอ หากต้องการประหยัดพลังงานจริง ๆ ควรปิดจอคอมพิวเตอร์ไปเลยทุกครั้งที่ ไม่ใช้งาน เพราะอย่างน้อย การปิดจอก็ไม่ได้ทำให้การดาวน์โหลดนั้นขาด ตอนแต่อย่างใด
     
       19. การเปลี่ยนจอคอมพิวเตอร์จากแบบ CRT เป็นจอแบนชนิด LCD ก็ช่วยประหยัด ไฟให้กับครอบครัวได้มากขึ้นเช่นกัน
     
       20. เมื่อทำการชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ, ถ่านไฟ, กล้องวิดีโอ, ฯลฯ เสร็จสิ้นแล้ว อย่าลืมถอดแท่นชาร์จออกจากปลั๊ก


ประหยัดพลังไฟ มุ่งใส่ใจพัฒนาเมือง